Ultraviolet อันตรายขนาดไหน เมื่อได้ยินคำถามนี้ขึ้นมา หลายๆคนคงจะตอบไม่ค่อยถูก รู้แค่ว่ามันอันตราย แต่มันอันตรายยังไงล่ะ ? วันนี้เราจะมาอธิบายให้ฟังว่ามันอันตรายยังไง พร้อมทั้งแยกประเภทของ รังสียูวี ว่ามีกี่ประเภท
ก่อนอื่นคงต้องกล่าวถึงเรื่องแสงอาทิตย์กันก่อน แสงอาทิตย์นั้นมีสิ่งที่เรียกว่ารังสีอยู่ แต่ความยาวของรังสีพวกนั้นมันไม่เท่ากัน ขอแยกประเภทง่ายๆว่ามันจะมีรังสี ที่เราสามารถมองเห็นได้ และรังสี ที่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าๆของเรา แสงอาทิตย์ที่เราเห็นกันทุกวันนั้นคือรังสี ที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่รังสีที่เรามองไม่เห็น นั่นแหละที่เรียกว่ารังสียูวี
เมื่อเรารู้แล้วว่ารังสียูวีคืออะไร แต่ทำไมมันถึงทำร้ายผิวกันล่ะ ? ทำไมเราต้องทาครีมกันแสงอาทิตย์กัน ในเมื่อภายในแสงอาทิตย์นั้นมีวาตามิน D ที่ให้ประโยชน์แก่ผิวไม่ใช่หรอ ?
Ultraviolet มีข้อดีไม่ใช่หรอ ?
ใช่แล้วครับ การได้รับแสงอาทิตย์จะทำให้เราได้วิตามิน D จากแสงอาทิตย์ แต่การที่เรารับแสงอาทิตย์มามากเกินไปจะส่งผลให้รังสียูวีภายในแสงอาทิตย์ที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่านั้นทำร้ายเอาได้ ซึ่งเวลาที่จะถูกรังสียูวีทำร้ายมากที่สุดคือช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้า ถึง บ่าย 2 โมง ภายในช่วงเวลาเหล่านี้ เราทุกคนควรหลีกเลี่ยงการออกไปรับแสงอาทิตย์มากที่สุด แถมที่ประเทศไทยยังมีอุณภูมิที่สูง เรียกได้ว่าทั้งเสียสุขภาพทั้งทรมานกันเลยทีเดียว
โดยรังสียูวีนั้นเป็นตัวทำร้ายเซลล์ผิวที่มีความรุนแรงมากพอสมควร ยกตัวอย่างเช่น การเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง รังสียูวีก็มีส่วนหากได้รับมันในปริมาณมากๆ ซ้ำกันทุกๆวัน รวมไปถึงการเกิดรอยดำรอยแดงบนหน้า การหลีกเลี่ยงการรับแสงยูวีมากเกินไปก็จะสามารถช่วยเรื่องนี้ได้
ซึ่งรังสียูวีจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. รังสียูวีบี รังสีนี้จะให้วิตามิน D กับเรา หากเรารับรังสีมาพอประมาณ แต่การรับรังสีมามากเกินไปจะส่งผลรุนแรงกลับมา
2. รังสียูวีเอ รังสีนี้จะก่อให้เกิดรอยดำรอยแดง
3.รังสียูวีซี รังสีนี้จะอันตรายน้อยหน่อย เนื่องจากมันถูกชั้นบรรยากาศของโลกดีดออก แต่ปัจจุบันชั้นบรรยากาศของโลกเริ่มถูกทำลายลงเรื่อยจากฝีมือของมนุษย์
แนะนำ ปรากฏการณ์แพลงก์ตอนเรืองแสง
เรียบเรียงโดย ufa168
0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0 0